กว่าจะมาเป็น “เชฟหมอน”
เรื่องราวชีวิตของ “เชฟหมอน” ที่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง? เด็กบ้านนอกที่เรียนจบการศึกษา ป.6 มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงตามหาชีวิตที่อยากจะเป็น.. แต่ใครจะไปรู้ว่าสิ่งที่เชฟจะมาเป็นเชฟในวันนี้ คือสิ่งที่เชฟอยู่กับมันตลอดเวลา..
เรื่องราวชีวิตและธุรกิจร้านอาหาร ส่วนใหญ่ หลายๆคนบอกเริ่มจากความชอบ แต่น้อยคนที่บอกว่า..“เค้าเริ่มจากไม่รู้ว่าชอบอะไรเลย.. ขอแค่มีข้าวกินก็พอ”
บทสัมภาษณ์เชฟหมอน
จุดเริ่มต้นของคำว่า “เชฟ” เรื่องราวเป็นมายังไงครับ
“เชฟหมอน : เรื่องคงจะเริ่มตั้งแต่สมัยผมเด็กๆเลยครับ ..ขอเล่าย้อนกลับไปสมัยเด็กๆ ผมเป็นคนสุรินทร์โดยกำเนิดครับ.. ในสมัยนั้นยังลำบากมาก จบการศึกษา ป.6 ผมก็คิดว่าถ้าอยู่บ้านไม่มีกินแน่นอนก็เลยตัดสินใจเข้า กรุงเทพฯ ตอนนั้นก็ยังเด็กมากครับ หางานทำก็คิดแค่ว่าต้องมีข้าวกิน ..ผมเลยเข้าไปทำตามร้านอาหาร ก็มีข้าวกิน มีเงินใช้ ทำเรื่อยๆครับไม่ได้คิดอะไร #อย่างที่บอกคือขอแค่มีข้าวกิน ..มีช่วงหนึ่งเลิกทำแล้วไปทำอย่างอื่น แต่พอออกไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีข้าวกิน สุดท้ายก็กลับมาทำเหมือนเดิม สมัยนั้นทำได้แค่ ล้างจาน กวาดร้านอะไรพวกนี้ครับ"
ยังเด็กและเล่นซน
"ถูกครับ ตอนนั้นคือเด็กน้อยมากครับ ยังติดเพื่อน.. ออกไปหาอะไรใหม่ๆทำ สุดท้ายก็ไปไม่รอดกลับมาที่เดิม แล้วพออายุมากขึ้น เราก็คิดว่าคงต้องหาสิ่งที่ตัวเองชอบและทำมันให้จริงๆจังๆ"
ใช้งานหนัก
"ผมจะเป็นคนที่ถูกพ่อครัวแม่ครัวหรือคนในร้านเรียกใช้งานบ่อย บางครั้งก็คิดว่า เอ๋..ทำไมเรียกแต่เรา แต่มาคิดอีกทีนี้คือประสบการณ์และวิชาชีพของเราที่ติดตัวมาจนทุกวันนี้ครับ"
ผู้ช่วยเชฟ
"เริ่มมาช่วยพ่อครัวแม่ครัว เด็ดพริกล้างผักล้างปลา ผมก็จะชอบสังเกตว่าใครทำอะไรยังไงบ้าง ก็เริ่มคิดว่าเส้นทางนี้คงเป็นเส้นทางที่เราต้องเดินไปจริงๆ ในสายงานอาชีพนี้ ได้เข้าๆออกๆ ทำงานตามร้านอาหาร โรงแรม ภัตตาคาร ในหลายๆที่ อย่างเช่น ภัตตาคารโคคา, ฮ้อยเทียนเหลา, โรงแรมดุสิตธานี, อันดามันคลับ, จนล่าสุดในช่วงนั้นได้เข้ามาอยู่ที่ ครัวเจ๊ง้อ"
ครัวเจ๊ง้อ
"คือตอนมาอยู่ที่ครัวเจ๊ง้อ ช่วงปี พ.ศ .2544 ครับ เขามองเห็นว่าเราสามารถบริหารจัดการได้ทุกอย่างในครัว ก็เลยเป็นแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่อย่างเช่น เจ๊ง้อ ให้ความสนับสนุนผลักดันให้จนเป็นเชฟมือเอกของร้าน ..ก็อยู่มาจนถึงปลายปี พ.ศ 2557 ตัดสินใจลาออก เพราะด้วยอายุที่มากขึ้นและอยากกลับมาอยู่ที่บ้าน ที่จังหวัดสุรินทร์"
อยากกลับมาอยู่บ้าน
"ตัดสินใจลาออกตอนนั้นคิดแค่ว่า อยากกลับมาอยู่บ้าน ใช้ชีวิตแบบพอเพียงเปิดร้านกับข้าวเล็กๆ แต่พอมาขายจริงๆ มันเกินคาดครับ ร้านที่เปิดตอนแรกๆ เปิดในบ้านพี่ชายใน ต.เมืองที ร้านเล็กๆครับ เปิดช่วงตอนประมาณปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2559 เริ่มแรกใช้ชื่อว่าเชฟหมอนอันดามัน แล้วหลังจากนั้นจึงปรึกษากับพี่น้องจึงได้มาใช้ชื่อเป็น “ครัวคุณหมอน” เปิดได้ 2 เดือน เสียงตอบรับกลับมาเกิดคาดครับ มีกระแสทางโซเชี่ยลและกระแสแบบปากต่อปากคนมาตามรอยกันเยอะมาก จากที่คิดว่าอยากจะขายให้ชาวบ้านคนในหมู่บ้าน ไปๆมาๆ เริ่มมีหน่วยงานราชการหรือท่านผู้ใหญ่หลายๆคนมาทานอาหารที่ร้าน ผมก็เริ่มคิดแล้วว่า เราจะทำยังไงให้ร้านของเรา ดูเข้ากับกลุ่มลูกค้า รองรับลูกค้าได้มากพอ ก็เลยตัดสินใจ ย้ายร้านครับ ย้ายมาอยู่หน้าโรงเรียนรามวิทยา รัชมังคลาภิเษก ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนเลยครับ"
ย้ายร้านครั้งที่ 1
"ย้ายร้านมาอยู่หน้าโรงเรียนรามวิทยา รัชมังคลาภิเษก อยู่ได้สักพักใหญ่ๆ ลูกค้าก็เพิ่มมากขึ้น ร้านก็รองรับไม่เพียงพอ บางทีถึงกับต้องให้นั่งรอ อาหารก็ทำไม่ทัน วัตถุดิบบางอย่างต้องมาซื้อในตัวเมืองโดยเฉพาะ แต่ด้วยเงินทุนที่น้อยนิดก็เลยยังไม่ได้คิดว่าจะย้ายร้านจริงๆ"
ย้ายร้านครั้งที่ 2
"ก็คิดอยู่นานครับ แต่เพื่อลูกค้า ผมก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ใน อ.เมืองสุรินทร์ อยู่หน้าโรงพยาบาลรวม แพทย์ (หมออนันต์) ก็ช่วงนี้กำลังต่อเติมอาคารใหม่ เป็นห้องอาหารเพื่อรองรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มจะได้เพียงพอสำหรับบริการครับ ในเมืองมีโอกาสต่างๆมากกว่า และใกล้กับแหล่งวัตุดิบด้วยครับ"
ครัวคุณหมอน หรือ เชฟหมอน
"ผมรีแบรนด์จาก “ครัวคุณหมอน เป็น เซฟหมอน” ทำโลโก้ของร้านใหม่ เพราะผมอยากให้ลูกค้าสัมผัสว่า ร้านเชฟหมอน เชฟทำเอง เสริฟเอง ดูแลบริการด้วยตนเอง มาร้านนี้ต้องเห็นภาพว่าเชฟหมอนคือคนนี้ ..คือใครครับ เป็นการสื่อสารจากผมถึงลูกค้าโดยตรง ให้ลูกค้าได้มั่นใจว่าอาหารทุกจานเราบริการด้วยใจ ใส่ใจ อร่อย และมีความสุขกับอาหารของเราครับ"
วางแผนต่อยอด
"อนาคตผมกำลังพัฒนาเป็นแบบฟู้ดทรัคครับ เป็นรถอาหารแบบเคลื่อนที่ พร้อมเสริฟความอร่อยถึงที่"
เชฟฝากถึงผู้อ่านหรือคนที่กำลังหาในสิ่งที่ตนชอบ
"ทำให้ดีที่สุด และในเมื่อลงมือทำอะไรไปแล้ว ..เราต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่ทำอยู่ แล้วทุกอย่างจะดี แล้วมีความสุขครับ"
กว่าจะมาเป็น “เชฟหมอน” เรื่องราวที่ SurinBiz นำมาให้อ่านหวังว่าคงจะเป็นไฟเป็นพลังให้กับคุณที่กำลังสนใจที่อยากจะเริ่มธุรกิจหรือหาสิ่งที่ตนชอบอยู่ “หากยังมองไม่เจออะไรให้มองย้อนกลับไปเส้นทางที่เราเดินมา” รอบๆ ตัวเราสิ่งที่เป็นและทำมันอยู่เป็นประจำ สิ่งๆนั้นอาจจะเป็นเหมือนดังคำที่เชฟหมอนบอกว่า “เค้าเริ่มจากไม่รู้ว่าชอบอะไรเลย..ขอแค่มีข้าวกินก็พอ” สิ่งที่เค้าทำเป็นประจำคือสิ่งที่สร้างเค้าขึ้นมาจนถึงวันนี้.. สวัสดีครับ
บริการรับจัดโต๊ะจีนและจัดเลี้ยงนอกสถานที่
ร้านเชฟหมอนบริการอาหารไทย จีน ซีฟู้ด รับจัดโต๊ะจีน และจัดเลี้ยงนอกสถานที่
- อาหารสำหรับงานสัมมนา
- งานจัดเลี้ยง
- งานเลี้ยงแต่งงาน
- งานเลี้ยงอุปสมบท
- งานเลี้ยงรุ่น
- งานแสดงมุทิตาจิต
สอบถามเพิ่มเติม หรือขอใบเสนอราคา
โทร.063-624 2266
Email : chefmorn@gmail.com
เวลา : 10:00-14:00 น. และ 16:30-22:00 น.
เมนูแนะนำประจำร้าน
- เส้นหมี่ผัดกระเฉด
- เต้าหู้ห้าเซียน
- ผักบุ้งฝอย
- หัวปลาต้มเผือก
ส่วนเมนูของหวานก็ต้อง เผือกหิมะ เมนูนี้ต้องเชฟหมอนเท่านั้นครับ
จุดเด่นที่ลูกค้าชอบร้านเชฟหมอน
จุดเด่นคงเป็นเพราะเชฟทำเอง บริการเอง รสชาติอาหารอร่อยทุกจานไม่ผิดหวังอะไรแบบนี้ครับ